Skip to content

SISAKETNEWS

อัปเดตทุกประเด็นข่าวที่น่าสนใจ

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ยืมเงินไม่คืน เอารถมาค้ำประกัน แต่กลับไปฟ้องเจ้าหนี้ว่ายักยอกทรัพย์

Posted on เมษายน 21, 2025เมษายน 21, 2025 By admin

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ยืมเงินไม่คืน เอารถมาค้ำประกัน แต่กลับไปฟ้องเจ้าหนี้ว่ายักยอกทรัพย์ รถของกลางเอาไปจอดไว้ที่โรงพัก ยังมาขับออกไปต่อหน้าตำรวจ

นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ชาวอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังถูกนางสาวบี (นามสมมติ) เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานหลายปี ยืมเงินจำนวน 170,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมสัญญาจะคืนภายในหนึ่งเดือน แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่ชำระหนี้ และมีการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

นางสาวเอจึงตกลงให้ทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HR-V เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจนกว่าจะชำระหนี้หมด กระทั่งนางสาวบีทำหนังสือขอคืนรถ และแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งเคยมีการนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เมษายน 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย นางสาวเอพาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบจุดที่เคยนำรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ขณะให้การกับพนักงานสอบสวน แต่กลับพบว่า นางสาวบีได้พาผู้หญิงอีกคนที่อ้างว่าเป็นภรรยาของตำรวจในโรงพัก มาใช้กุญแจสำรองขับรถออกไปต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่จำนวนมาก โดยไม่มีใครขัดขวางหรือดำเนินการใดๆ

กล้องวงจรปิดที่หน้าสถานีตำรวจบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน ขณะที่นางสาวบีมากับหญิงอีกคน และใช้กุญแจสำรองขับรถออกไป ขณะเดียวกัน นางสาวเอกำลังอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับตำรวจ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่

นางสาวเอ เล่าว่า หลังมีการร้องเรียนผ่านสื่อ เจ้าหน้าที่ได้เรียกนางสาวบีมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยตกลงว่าจะชำระเงินคืนภายในวันที่ 31 มีนาคม แต่เมื่อถึงวันนัด นางสาวบีกลับไม่มาตามสัญญา และโทรศัพท์แจ้งกับตำรวจว่า หากอยากได้เงินคืนให้ไปฟ้องเอาเอง หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวอีก ทั้งตำรวจเองก็ไม่มีความคืบหน้าในการติดตามทั้งตัวนางสาวบีและรถยนต์

นางสาวเอกล่าวว่า ตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะรถจอดอยู่ในโรงพักแท้ๆ แต่กลับปล่อยให้นำออกไปได้ โดยไม่มีการคัดค้านหรือป้องกัน ทั้งที่รถคันนี้ถือเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ที่ยังไม่ถูกชำระ อีกทั้งจนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในการติดตามรถคืน หรือเรียกลูกหนี้มาเจรจาเพิ่มเติม ทำให้ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือกลับต้องเดือดร้อน

พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำเครื่อง รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นกรณีของการกู้ยืมเงินระหว่างเพื่อน ซึ่งมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิของตนเอง ตำรวจจึงเชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจา และเสนอให้นางสาวบี เอารถไปประเมินราคาไฟแนนซ์เพื่อนำเงินมาใช้คืนให้เจ้าหนี้ แต่ยังไม่มีข้อยุติ

สำหรับกรณีที่นางสาวบีใช้กุญแจสำรองขับรถออกจากโรงพัก รอง ผกก.สอบสวนชี้แจงว่า ตามกฎหมาย นางสาวบียังถือเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เพราะยังไม่มีการฟ้องร้องหรือคำสั่งศาลใดๆ การนำรถออกไปจึงยังไม่ถือว่าลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันจะอำนวยความยุติธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นางสาวเอย้ำว่า เธอไม่ได้ต้องการให้เรื่องบานปลาย เพียงแค่ต้องการให้ลูกหนี้แสดงความรับผิดชอบ และอยากให้ตำรวจเร่งรัดติดตามมาเจรจาไกล่เกลี่ยให้เรื่องยุติโดยเร็ว

ท้องถิ่น

แนะแนวเรื่อง

Previous Post: คนร้ายควงปืนกระหน่ำยิงใส่วัยรุ่น ดับ 1 สาหัส 1
Next Post: พรานผึ้งป่าทำพิธีขอขมาพญาผึ้ง ปาดน้ำผึ้งเดือน 5

ข่าวเด่นประจำวัน

  • สุดสลด ! สาวท้อง 7 เดือน ถูกฟ้าผ่าเดับ ขณะตัดต้นยูคาลิปตัส
  • แม่ลูกอ่อนประกาศขายอวัยวะ หาเงินเลี้ยงดูลูก 1 ขวบ
  • หอการค้าศรีสะเกษ เดินหน้ายกระดับความรู้ด้านบัญชี-การเงินภาคธุรกิจ
  • ชวนเที่ยวงานเทศกาลส้มโอศรีสะเกษและของดีอำเภอเมืองจันทร์
  • เว้ากันยามเช้า ชาวศรีสะเกษ จับมือทำงานเป็นทีมสู่เป้าหมายเดียวกัน

SISAKETNEWS

Powered by PressBook WordPress theme