วันที่ 16 มิ.ย. 2568 ที่จุดผ่านแดนถาวร ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกำหนดของฝั่งประเทศไทย ด่านเปิดเวลา 08.00-15.00 น. ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ยังกำหนดเดิมคือเปิด เวลา 09.00-15.00 น. ในขณะที่หน้าด่านฝั่งไทย ได้มีแรงงานกัมพูชา คนหนุ่มสาวกว่า 50 คน นั่งรถยนต์มา 6 คัน มารอที่หน้าด่าน พร้อมกับข้าวของมากมาย ทั้งพัดลม ตู้เย็น กระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระอีกจำนวนมาก เหมือนการอพยพใหญ่กลับบ้าน
ซึ่งเบื้องต้นที่เข้าไปพูดคุยกับแรงงานกัมพูชาหลายคน เข้ามาทำงานที่จังหวัดศรีสะเกษ นานมากกว่า 10 ปี บางคน 6 ปีขึ้น ได้ค่าจ้างแรงงาน มีตั้งแต่วันละ 420 บาท ถึงสูงสุด วันละ 450 บาท พร้อมมีโอที แม้จะเข้าใจว่า การเดินทางกลับไปบ้านที่กัมพูชา จะต้องตกงาน ไม่มีงานทำไม่มีรายได้แน่นอน แต่พ่อแม่ที่อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ขอให้เดินทางกลับบ้านไปก่อน เพราะจากกระแสข่าวในประเทศกัมพูชา ว่าผลการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ยังไม่มีข้อสรุปที่จะตกลงกันได้
อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัย และรัฐบาลกัมพูชา ออกข่าวว่า อาจะเกิดสงคราม ทั้งดูข่าว ทั้งผู้นำหมู่บ้าน ทั้งการเล่าขานต่อๆ กันในประเทศ หากยังอยู่ทำงานต่อที่จังหวัดศรีสะเกษ อาจจะไม่ปลอดภัย
นายไชยรัด เลียง แรงงานกัมพูชา ที่ทำงานจังหวัดศรีสะเกษนานกว่า 10 ปี กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ ที่อยู่บ้านในประเทศกัมพูชา ว่าเหตุการณ์ยังไม่สงบ และผู้นำของประเทศกัมพูชา ก็ออกข่าวไปทั่วประเทศว่า ให้ประชาชนชาวกัมพูชา หากใครที่ส่งลูกหลาน ไปทำงานที่ประเทศไทย ขอให้ติดต่อและให้เดินทางกลับมาบ้านกัมพูชาก่อน เพราะเหตุการณ์ไม่สงบ จากการที่ไทยรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดิน ปราสาทของกัมพูชา อาจจะมีการสู้รบเพื่อชิงดินแดนกัน
ทำให้พวกตนเองที่ทำงานในศรีสะเกษ ต้องโทรหากัน ชวนกันเหมารถยนต์มาส่งที่ด่านชายแดนช่องสะงำ เพื่อเดินทางกลับบ้านก่อน ในวันนี้ที่ด่านเปิด ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ซึ่งหากเหตุการณ์สงบลง ก็อาจจะเดินทางกลับเข้ามาทำงานเก่าต่อ หากนายจ้างยังต้องการคนงานกัมพูชา พวกตนเองอยู่ หรือไม่ก็จะหางานทำงานกัมพูชา แม้จะรู้ว่าหายาก หรือไปประเทศอื่น
จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ฝั่งกัมพูชา อยู่ในความดูแลของอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เปิดเวลา 09.00 น. แรงงานก็ได้แบกตู้เย็น หอบหิ้วพัดลม กระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระ เดินทางกลับบ้านผ่านด่านออกไป