คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวในพระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานวัดไพรพัฒนา

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินทอดถวาย ณ วัดไพรพัฒนา มีพุทธศาสนิกชนศิษย์หลวงปู่สรวงแห่รวมทำบุญสมทบกว่า 4.5  ล้านบาท

 

วันนี้ (6 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาทม วัดไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้ากฐิน ตามที่ นางชไมมาศ  ชาติเมธากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สุขภัณฑ์คริสติน่า (ประเทศไทย) จำกัด ขอพระราชทานมาทอดถวายถวายแด่ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนายังวัดไพรพัฒนา เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา มี พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 

โดย นางชไมมาศ  ชาติเมธกุล ได้ถวายเงินทำบุญกฐิน จำนวน 3,000,000 บาท และมี นางกัลญารัตน์  จงวิไลเกษม  พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง ได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบกองกฐิน จำนวน 1,500,000  บาท รวมเป็นยอดเงินกองกฐินทั้งสิ้น 4,500,000 บาท  ทั้งนี้เ พื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บูรณะพระอาราม ศาสนวัตถุทุกแห่ง                              

จากนั้น ได้มอบเงินทุนสนับสนุนการจัดการศึกษาให้กับโรงเรียนตามแนวชายแดนไทย  – กัมพูชา  จำนวน 30 โรงเรียน ๆ ละ 5,000 บาท  โดยมี นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิทยา  วิรารัตน์  ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นายประหยัด  ถิลา  วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ  ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาร่วมพิธีในครั้งนี้จำนวนมาก

สำหรับ วัดไพรพัฒนา แต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ โดยเมื่อปี 2550 ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวัด ต่อมาในปี 2554 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ทั้งนี้ ได้มีการพัฒนาวัดฯ เพื่อเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของชุมชน ภายในวัดฯ มีศาสนสถาน ศาสนวัตถุ อาทิ โบสถ์ วิหาร และมณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง ที่สร้างในลักษณะเป็นการประยุกต์ใช้ศิลปะแบบขอม และทางวัดฯ ยังได้ขอประทานพระบรมสารีริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานบรรจุไว้ ณ มณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปได้สักการะ มีพระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม เป็นเจ้าอาวาส มีภิกษุสงฆ์ 14 รูป สามเณร 16 รูป

 

ปัจจุบันมีการจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เพื่อเปิดสอนวิชาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้กับนักเรียนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ปัจจุบันมีนักศึกษา จำนวนประมาณ 900 คน

ศรีสะเกษ จัดพิธีน้อมรำลึก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย”

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษจัดพิธีน้อมรำลึกพระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทยเนื่องในวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย
 
 
วันนี้ (28 ต.ค. 65) นายนพ พงษ์พลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุราธิคุณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า “ พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” โดยมีนายแพทย์ทะนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก 22 อำเภอ และ หมอพื้นบ้าน หรือ ปราชญ์ชาวบ้านเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งจัดขึ้นภายในโดมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ล้นเกล้าล้นกระหม่อม แก่ปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะวงการแพทย์ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ ทรงรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย มาเผยแพร่ในวงกว้างและมีความเจริญรุ่งเรืองเกิดคุณูปการแก่แก่พสกนิกร ต่างประจักษ์และความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้รับการยกย่องเป็น“ พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย”

โอกาสนี้ เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ เป็นการเทิดพระเกียรติ ” พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษได้พิจารณามอบรางวัลเชิดชูเกียรติ บุคคลต้นแบบดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านไทย ตลอดจนพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติ ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกระดับจังหวัด เพื่อร่วมสืบสานภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยให้คงอยู่สืบไป

“จิตอาสาศรีสะเกษ” พัฒนาวัดบ้านเพียนามถวายเป็นพระราชกุศล

จังหวัดศรีสะเกษนำพลังจิตอาสาร่วมทำความสะอาดวัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันพระปิยมหาราช

 

วันนี้ (23ต.ค.65) ที่วัดเพียนาม ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมืองศรีสะกษ นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสาทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

 

โดยได้นำจิตอาสา ทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียนนักศึกษา และ ประชาชน ร่วมทำความสะอาดบริเวณรอบโบสถ์ ศาลาวัด ตลอดจนปรับภูมิทัศน์โดยรอบวัดเพียนามให้คืนสภาพเกิดความเรียบร้อย หลังจากได้ถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานานกว่า 10 วัน ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร สร้างความเสียหายแก่อาสนะสงฆ์ และ ข้าวของเครื่องใช้อย่างมาก

 

กิจกรรมพลังจิตอาสาทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นผนึกพลังภาครัฐ ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่น และ ภาคประชาชน ได้ร่วมทำความดีเพื่อส่วนรวม และต่างน้อมสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ของในหลวงรัชกาลที่ 5

 

พระผู้ทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศชาติให้ทัดเทียมอายะประเทศ ทั้งด้านการศึกษา การคมนาคม การสื่อสาร การคลัง การทหารตำรวจ ตลอดจนเกษตรกรรรม โดยทรงจัดตั้งกระทรวงต่างๆ เข้าดูแลรับผิดชอบ

 

อีกทั้ง ทรงมีการเลิกทาส นับเป็นพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่งที่ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด เป็นการยกเลิกระบบที่คนชั้นสูงตั้งขึ้น เพื่อกดขี่ราษฎรให้ทำงานรับใช้หรือส่งทรัพย์สินให้โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุด

 

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่คนไทยทุกคนต่างสำนึกและยกย่องพระองค์ท่านว่า สมเด็จพระปิยมหาราช พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

ศรีสะเกษวางพวงมาลา น้อมรำลึกร.5

รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษนำทุกภาคส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและองค์กรภาคเอกชนร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

 

วันนี้ (23ต.ค.65) เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ สมเด็จพระปิยมหาราช ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมข้าราชการตุลาการ อัยการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรภาคเอกชน ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระองค์ท่าน ที่พระปรีชาสามารถและทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศชาติให้ทัดเทียมอารยะประเทศ

 

ทรงจัดตั้งกระทรวงต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า ทั้งในด้านการคมนาคม การสื่อสาร การศึกษา ด้านการทหาร ตำรวจ การประปา ตลอดจนด้านเกษตรกรรมต่างๆ นำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่นและมั่นคงของประเทศชาติตราบถึงปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี พระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า ” พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ” โดยพระองค์ทรงเลิกทาสโดยมิได้สูญเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด นับเป็นประวัติศาสตร์สำคัญยิ่งของประเทศไทย ที่สำคัญนานาชาติต่างให้การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

องคมนตรี ตรวจเยี่ยม รพ.เบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดศรีสะเกษพร้อมเปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางจากวัตถุดิบสมุนไพร         

วันนี้ (20 ต.ค.65) พลอากาศเอก ชลิต  พุกผาสุข องคมนตรี และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตำบลเสียว อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายสำรวย  เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ

นายแพทย์พัฒนศักดิ์  ทั่งนาค  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา  รายงานการดำเนินงานของโรงพยาบาลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่ส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มในทุกตำบล ทั้งการดูแลสุขภาพจิตและการผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง ทั้งในเขต – นอกเขต 

หลังจากรับฟังผลการดำเนินงานแล้ว องคมนตรี ได้ชื่นชมและให้คำแนะนำการดำเนินงานในการบริการรักษาประชาชน ตลอดจนการพัฒนาสมุนไพรเพื่อบริการแพทย์ทางเลือก  จากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปะจากชมรมศิลปินอีสาน ณ อาคารภูมิพัฒน์ พร้อมให้กำลังใจกลุ่มศิลปินท้องถิ่นที่ได้นำภาพวาดมาร่วมแสดง และ มอบให้องคมนตรีด้วย  

จากนั้น องคมนตรีได้เปิดป้ายโรงงานผลิตเครื่องสำอางจากวัตถุดิบสมุนไพรรองรับบริการแพทย์ทางเลือก เสร็จแล้วได้เยี่ยมชมการดำเนินงาน SMART Hospital  ณ อาคารผู้ป่วยนอก  ติดตามเยี่ยมชมพลังท้องที่ท้องถิ่นกับการร่วมเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 ในทุกหมู่บ้านชุมชนทั้ง 5 ตำบล 

โอกาสนี้ องคมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมผู้ป่วยใน และ มอบสิ่งของเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ป่วย จำนวน 20 ราย  ณ อาคารผู้ป่วยในพิเศษ จากนั้นองคมนตรีได้ปลูกต้นไม้ และ ร่วมถ่ายภาพกับคณะทำงานเพื่อเป็นที่ระลึก บริเวณด้านหน้าอาคารภูมิพัฒน์      

สำหรับโรงพยาบาลเบญจลักษ์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นโรงพยาบาล ขนาด 30 เตียง ดูแลรักษาผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 6 แห่ง มีบุคลากรทั้งสิ้น 139 คน ประกอบด้วย แพทย์ 5 คน ทันตแพทย์ 3 คน เภสัชกร 4 คน นักเทคนิคการแพทย์ 2 คน แพทย์แผนไทย 3  คน พยาบาลวิชาชีพ 39 คน นักกายภาพ 2 คน และ เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ปัจจุบันให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 247 คนต่อวัน และ ผู้ป่วยในเฉลี่ย 24 คนต่อวัน  ผู้ป่วยนอกส่วนใหญ่จะโรคเบาหวาน  โรคความดันโลหิตสูง โรคติดเชื้อ COVID-19 

 

ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะด้วยโรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ โรคไตเรื้อรัง อาหารไม่ย่อย  ปัจจุบันได้ยกระดับเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบแปรรูปสมุนไพรและผลิตเครื่องสำอางจากสมุนไพร เพื่อให้กลุ่มผู้ปลูกพืชสมุนไพร กลุ่มแปรรูปสมุนไพรมีรายได้เพิ่ม ตลอดจนประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพและปลอดภัยอย่างครบวงจร  ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ “พระราชกิตติรังษี”

วันนี้ (18 ต.ค.65)  ที่วิหารวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองศรีสะเกษ  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เชิญพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพพระราชกิตติรังสี (บุญทัน สันตจิตฺโต) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 และ อดีตเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ  ซึ่งได้มรณภาพตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565  พร้อมสวดพระอภิธรรมทุกคืน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชนเข้าร่วมพิธี   

 

จังหวัดศรีสะเกษและคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดพิธีทำบุญปัณณรสมวาร หรือ ทำบุญครบ 15 วัน  ในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 พร้อมเก็บร่างไว้จนครบ 100 วัน ก่อนที่จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป.