วันที่ 24 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่แนวชายแดนเชิงเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า บรรยากาศในพื้นที่ชายแดนยังคงตึงเครียด หลังเกิดเหตุยิงปืนเล็กจากฝั่งกัมพูชามายังแนวลวดหนามป้องกันฝ่ายไทยก่อนหน้านี้ ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เสาธงชัย, ต.ภูผาหมอก, ต.ชำ, ต.รุง และ ต.โดนเอาว์ กว่า 200 ครัวเรือน ได้เริ่มเก็บข้าวของเครื่องใช้จำเป็น เตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากสถานการณ์บานปลายกลายเป็นการปะทะรุนแรง
โดยผู้นำชุมชนประกาศย้ำให้ชาวบ้านเฝ้าระวังและเก็บตัวอยู่ในพื้นที่ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะประกาศแจ้งเตือนผ่านหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน เพื่อความปลอดภัย
นายเสวียน บัวเกษ อายุ 81 ปี ชาวบ้านห่างแนวชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เวลากลางคืนยังคงได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ เชื่อว่าในอีก 1–2 วันอาจมีการปะทะแน่นอน ตนและครอบครัวพร้อมอพยพทันที พร้อมสนับสนุนให้ทหารไทยจัดการสถานการณ์ให้เด็ดขาด “ยิงให้จบ บ้านพังยอมสร้างใหม่ ขอให้เรื่องสิ้นสุดเสียที”
ด้านนางน้อย ทองปัญญา อายุ 62 ปี ระบุว่า ได้เตรียมกระเป๋าอพยพไว้แล้ว โดยใส่เสื้อผ้า บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ยา และสมุดบัญชีธนาคาร เนื่องจากได้รับข่าวจากลูกหลานซึ่งเป็นทหารว่า อาจมีการยิงในวันที่ 26 ก.ย.นี้ โดยครั้งก่อนเคยไปพักที่ศูนย์อพยพบ้านจาน แต่ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะอพยพไปที่ใด ต้องรอคำสั่งจากผู้ใหญ่บ้าน
ขณะที่นางลังกา ลุมไทสง อายุ 56 ปี ชาวบ้านอีกคน กล่าวด้วยความกังวลว่า เชื่อว่าจะมีการยิงปะทะเกิดขึ้นแน่ หากเกิดเหตุจะรีบหนีออกไป แต่หากไม่มีก็จะกลับมาเปิดร้านขายของต่อไป พร้อมบ่นว่าการปะทะซ้ำซากทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะการทำมาหากิน ไม่สามารถเข้าป่าไปหาของขายได้เหมือนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่า หลายครอบครัวได้จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นไว้เรียบร้อยแล้ว บางครอบครัวยังคงอาศัยในบ้าน แต่ระวังตัวอย่างหนักและเฝ้ารอฟังประกาศจากหอกระจายข่าว หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็พร้อมจะอพยพออกจากพื้นที่ในทันที.
