เรื่องทั้งหมดโดย ศรีสะเกษนิวส์

เอกอัครราชทูตฮังการี เปิดงานเทศกาลสงกรานต์สรงน้ำหลวงปู่สรวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดร.ซานดอร์ ซีโปส เอกอัครราชทูตประเทศฮังการี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย  ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ร่วมกับ พระวัชรญาณมุนี วิ.(พระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป) เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม  (บายตึ๊กเจีย) ปทุมธานี นำคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่สรวงจากทั่วประเทศได้จัดพิธีนี้ขึ้น  มีการจัดพิธีบวงสรวงอย่างยิ่งใหญ่ มีอาหารคาว หวาน ผลไม้ ประกอบพิธีจำนวนมาก มีคณะสงฆ์ จำนวน 250 รูป จากกรุงเทพฯ และศิษย์หลวงปู่สรวงพากันนุ่งขาวห่มขาวมาร่วมพิธีจำนวนมาก

จากนั้น เอกอัครราชทูตประเทศฮังการี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลสงกรานต์สรงน้ำหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนานานาชาติครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ไทย ซึ่งวัดไพรพัฒนา ได้จัดงานนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมี นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับ และมี นายวิวัฒน์ชัย  โหตระไวศยะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเคิน ยาน รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา นายวิทยา  วิรารัตน์  ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน คณะศิษย์หลวงปู่สรวงทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา มาร่วมพิธีจำนวนมาก

ต่อมา ดร.ซานดอร์ ซีโปส และคณะได้เข้าไปภายในศาลาทม  วัดไพรพัฒนา  เพื่อประกอบพิธีมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติจากมหาวิทยาลัย 28 แห่งทั่วโลกถวายแด่พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) เป็นพระยอดเยี่ยมและเป็นผู้นำวิเทศสหกิจระหว่างนานาชาติ

ดร.มิกอลล์  บันฮิติ  จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬาประเทศฮังการี  กล่าวว่า  วัดไพรพัฒนา เป็นที่ตั้งของมณฑปหลวงปู่สรวงอันเป็นที่บรรจุพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และบรรจุพระสรีระหลวงปู่สรวงอันเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์ที่เป็นพลังรักษาจิตและกายของคนไทยและกัมพูชา หลวงปู่สรวงเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พัฒนาศีล สมาธิและปัญญา จนมีพลังพิเศษที่คนท้องถิ่นพนมดงรักศรัทธาและทำให้จิตวิญญาณของคนไทยและกัมพูชามีความเป็นหนึ่งเดียว

พระครูโกศลสิกขากิจ จึงใช้การบริหารจัดการและการปกครองประชาชนตามหลักพุทธศาสนาและคำอวยพรอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวง ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่องานวิเทศสหกิจมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน พยายามสร้างสรรค์ soft power ทั้งทางศาสนา ประเพณีพิธีกรรม ภาษาส่วนผสานไทยและเขมร และคติชนวัฒนธรรมพื้นบ้านตามแนวทางหลาวปู่สรวง กระทั่งสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลขับเคลื่อนให้ปรากฏการวิเทศสหกิจระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม จึงสมควรถวายรางวัลผู้นำวิเทศสหกิจระหว่างประเทศแก่พระครูโกศลสิกขกิจในโอกาสนี้

ช็อกทั้งหมู่บ้าน เจอศพหนุ่มเลี้ยงวัวโดนฆ่ายัดส้วม

ศรีสะเกษ พบศพหนุ่มใหญ่รับจ้างเลี้ยงวัวถูกหมกในบ่อเกรอะหลังบ้าน ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นรุนแรงเดินตามหาจึงพบศพ สุดอนาถครอบครัวฐานะยากจนไม่มีเงินค่าทำศพ ญาติคาใจสาเหตุการตายวอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมด้วย

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 12 ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ว่า พบศพคนเสียชีวิตอยู่ที่ภายในบ่อเกรอะของส้วมที่บ้านเลขที่ 30  ดังนั้น จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชายุต  ชื่นใจชนก ผกก.สภ.กันทรอม ทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ขุนหาญ  และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานจุด อ.ขุนหาญ บ้านโพธิ์น้อย  เมื่อไปถึงที่สถานที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านของ นางมี  หญิงชราอายุ 83 ปี บริเวณส้วมหลังบ้านมีชาวบ้านกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่จำนวนมาก  ซึ่งภายในบ่อเกรอะของส้วม เจ้าหน้าที่พบศพของชายคนหนึ่งสภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงสีดำ  ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งรุนแรงมาก

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายสมิง  อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 13 ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ สภาพศพร่างจมอยู่ในบ่อเกรอะมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ฯได้ช่วยกันนำเอาร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากบ่อเกรอะ   สภาพศพพบว่า ลิ้นจุกปาก มีร่องรอยช้ำที่บริเวณรอบคอ  และที่บริเวณกะโหลกศีรษะด้านซ้ายมีร่องรอยยุบลงไปคล้ายกับโดนตีด้วยของแข็ง  บริเวณใกล้กับบ่อเกรอะที่พบศพ มีหมวกใบหนึ่งวางอยู่คาดว่าเป็นหมวกของผู้เสียชีวิต

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่า เมื่อวานนี้ (3 เม.ย.67) พวกตนได้กลิ่นเหม็นโชยมาตามสายลม จึงได้ช่วยกันเดินตามหากลิ่นเหม็น เพราะคาดว่าอาจจะเป็นซากสัตว์เลี้ยงตายใกล้บ้าน แต่ว่าเมื่อพวกตนเดินตามหาแล้วก็ไม่พบซากสัตว์ที่เน่าตาย พอเช้าวันรุ่งขึ้น (4 เม.ย.67) ปรากฏว่า พวกตนกลิ่นเหม็นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม  จนสุดที่จะทนกลิ่นเหม็นได้ จึงได้ช่วยกันเดินค้นหาตามกลิ่นเหม็น จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีหมวกใบหนึ่งวางอยู่และมีกลิ่นเหม็นโชยมาจากภายในบ่อเกรอะ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันเปิดฝาท่อบ่อเกรอะขึ้นมา และพบศพของนายสมิงเสียชีวิตอยู่ในบ่อเกรอะ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 – 5 วัน

ทางด้าน นางบุศ อายุ 55  ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายสมิงที่เสียชีวิต เล่าว่า นายสมิงมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว โดยนายสมิงได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่  1 เม.ย.  และในเช้าวันนี้ได้มีเพื่อนบ้านมาแจ้งให้ตนทราบว่า นายสมิงเสียชีวิตอยู่ในบ่อเกรอะหลังบ้านของนางมี ทำให้ตนเศร้าเสียใจมาก ตนมีความสงสัยในสาเหตุการตายของลูกชายเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า ศพของนายสมิงลิ้นจุกปาก มีร่องรอยช้ำที่บริเวณรอบคอ  และที่บริเวณกะโหลกศีรษะด้านซ้ายมีร่องรอยยุบลงไปคล้ายกับโดนตีด้วยของแข็ง คาดว่าลูกชายของตนอาจจะโดนทำร้ายทำให้เสียชีวิตและนำศพมาทิ้งลงไปในบ่อเกรอะเพื่ออำพรางคดี แต่ว่า ตนมีฐานะยากจนมาก  ไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จะทำศพลูกชาย จึงขอวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอให้เข้ามาทำการตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตนด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรอมได้ร่วมกับ รพ .ขุนหาญ ส่งศพของนายสมิง ไปทำการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศรีสะเกษ บวชเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติ “ในหลวง”

วันนี้ (1 เม.ย. 67) ที่วัดบ้านเพียรนาม ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีปลงผมนาค โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีพระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  มีหัวหน้าส่วนราชการ  เจ้าหน้าที่ คณะศรัทธาและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วม

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า คณะสงฆ์ ภาค 10 ได้จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกันทั่งภาค 10 จำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครพนม ยโสธร มุกดาหาร และจังหวัดอำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 2 – 23 เมษายน 2567 รวม 22 วัน

คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดวัดหรือที่พักสงฆ์ เป็นศูนย์อบรมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 42 ศูนย์ มีนักเรียน เยาวชน สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 2,086 คน เพื่อพัฒนาเด็กเยาวชนของชาติให้มีความรู้คู่คุณธรรม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อสร้างศาสนทายาทสืบทอดอายุพระศาสนาต่อไป

ศรีสะเกษ จัดมหกรรมจำหน่ายสินค้า Esan TRADE FAIR 2024

วันนี้ (28 มี.ค. 67) นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดมหกรรมการค้าชายแดน จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Esan TRADE FAIR 2024 @จังหวัดศรีสะเกษ” “Esan TRADE FAIR 2024 @จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 27 – 31 มีนาคม 2567 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

นายนคร บุตรดีวงศ์ พานิชย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สำนักงานพานิชย์จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างศักยภาพทางการค้า การลงทุนของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดทำโครงการยกระดับการค้า เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากภาคอิสานสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมและกลไกท่ส่งเสริมการพัฒนาเศษฐกิจฐานรากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านการสร้างมูลค่าการค้าให้กับสินค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเชื่อมโยงการค้า และขยายตลาด ทั้งในระดับชุมชน จังหวัด ภูมิภาค ในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจและความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยกันเอง หรือในระดับประเทศ และต่างประเทศ

จึงขอเชิญชวนร่วม ช้อป ชิม แชร์ ในงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “Esan TRADE FAIR 2024 @จังหวัดศรีสะเกษ”  ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP/SMEs จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าร่วมงานกว่า 110 คูหา ฟรี มินิคอนเสิร์ต การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียง กิจกรรมให้ร่วมสนุก รับคูปองเงินสด พิเศษซื้อสินค้าภายในงานลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้า และสร้อยคอทองคำ

ผู้ว่าฯเร่งช่วยเหลือครอบครัวแรงงานไทยเหยื่อระเบิดที่ไต้หวัน

คืบหน้าแรงงานไทยเหยื่อระเบิดที่ไต้หวัน ผูู้ว่าเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือ ขณะที่เมียเผยยังทำใจไม่ได้เนื่องจากโทรศัพท์คุยกันกับสามีทุกวันหลังเลิกงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายศักดา ยุรยาตร อายุ 37 ปี ชาวบ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ แรงงานไทยที่ไปทำงานที่ไต้หวัน เสียชีวิตเนื่องจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงงาน เจวี๋ย เฟิง อะลูมิเนียม จำกัด (Juei Feng Aluminium) ในเขตหูเน่ย นครเกาสง ทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เมื่อช่วงเวลา 08.23 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 110/3 หมู่ 11 บ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางอำมะรา ยุรยาตร อายุ 62 ปี แม่ของแรงงานชาวไทยที่เสียชีวิต

โดยบริเวณด้านหน้าบ้านได้มีการกางเต็นท์จัดเก้าอี้ เพื่อเตรียมจัดพิธีศพรวมทั้งต้อนรับแขกญาติพี่น้องที่จะเดินทางมาร่วมพิธีศพของนายศักดา บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก โดยแม่และพี่สาวของนายศักดา ต่างพากันเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายคนเดียวของบ้านไปอย่างกะทันหันแบบนี้ ซึ่งนางอำมะราได้ฝากถึงท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือด้วยหากไม่นำศพกลับคืนมาให้ก็ขอให้นำเอากระดูกกลับมาให้ทำบุญที่บ้านเกิดด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 110/3 หมู่ 11 บ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางอำมะรา ยุรยาตร อายุ 62 ปี แม่ของแรงงานชาวไทยที่เสียชีวิต ปรากฏว่าได้มีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวของนายศักดา ยุรยาตร ที่เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดย นพ.อธิบ ลีธีระประเสริฐ ผอ.โรงพยาบาลกันทรารมย์ ได้นำนักจิตวิทยามาให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวของนายศักดา เนื่องจากว่าญาติพี่น้องกำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย น.ส.อรนุช จันทรชิต แรงงาน จ.ศรีสะเกษ ตัวแทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ สาธารณสุข อ.กันทรารมย์ คณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ นำเอาเงินสดจำนวนหนึ่ง สิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้กับนางอำมะรา ยุรยาตร แม่ของนายศักดา และ น.ส.สุวคนธ์ เขียวอรุณ อายุ 32 ปี ภรรยาของนายศักดา เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งนางอำมะราและลูกหลานทุกคนต่างมีอาการเศร้าโศกเสียใจมาก โดยนายชัยยงค์ได้แจ้งนางอำมะราให้ทราบถึงแนวทางการช่วยเหลือของทางราชการว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างไรบ้าง

นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้มาเยี่ยมครอบครัวผู้ประสบเหตุที่ไต้หวันเนื่องจากโรงงานได้เกิดอุบัติเหตุระเบิดทำให้คนงานที่เป็นแรงงานไทยเสียชีวิต และมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านโพธิ์ลังกาแห่งนี้ ซึ่งญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เมื่อทราบข่าวก็อาจจะทำให้เสียกำลังใจตนพร้อมด้วยส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ทุกส่วน เหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านและ อสม.ก็ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจกับผู้ประสบเหตุ เพื่อให้มีกำลังใจในการที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไป เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข

ส่วนการที่บรรดาญาติพี่น้องได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือว่า ขอให้ช่วยนำศพผู้เสียชีวิตหรือกระดูกของผู้เสียชีวิตกลับมาบำเพ็ญกุศลนั้น เรื่องนี้ก็จะต้องดูว่าความเหมาะสมในการเคลื่อนย้ายมานี้ว่าจะสะดวกหรือไม่เนื่องจากเท่าที่ทราบมาลักษณะการเสียชีวิตลักษณะนี้เที่ยวบินส่วนใหญ่จะไม่รับศพ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ทางบริษัทผู้ว่าจ้างที่ประเทศไต้หวันก็อาจจะทำการฌาปนกิจและให้ญาติที่สนิท 2-3 คน ไปดูร่างของผู้เสียชีวิตด้วยว่าใช่หรือไม่ เพื่อประกอบการฌาปนกิจและนำกระดูกกลับคืนมาสู่ภูมิลำเนาเดิมที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำบุญต่อไป

น.ส.สุวคนธ์ เขียวอรุณ อายุ 32 ปี ภรรยาของนายศักดา ที่เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกเสียใจมากเนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องกะทันหันมากทำให้ตั้งตัวไม่ได้ ไม่คิดว่าสามีจะจากตนกับลูก 2 คนไปเร็วขนาดนี้ เนื่องจากว่าเราได้โทรศัพท์คุยกันทุกวันเวลาเลิกงาน สามีจะโทรมาคุยกับตนและลูกทุกวัน ปีกว่าที่ทำงานอยู่ที่ไต้หวันไม่มีวันไหนที่สามีจะไม่เคยโทรมาหาลูกกับตนเลย คุยกับลูกทุกวันหากวันไหนลูกไม่อยู่จะถามหาลูกทุกวัน เวลาวันเกิดหรือวันสำคัญอะไรก็จะมีของรางวัลให้กับลูกเสมอทุกครั้ง

การที่ไปทำงานอยู่ที่ไต้หวันเพื่ออนาคตของลูกทั้ง 2 คน การเกิดเหตุครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นลางบอกเหตุเลย เพราะว่าตอนกลางคืนเรายังได้คุยกันอยู่เลย แล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายที่ตนจะได้คุยสายกับสามี วันที่ได้ทราบข่าวคือวันเสาร์ที่ 24 มี.ค. ทางญาติโทรมาจากไต้หวันว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว ตอนแรกตนไม่เชื่อ คิดว่าสามีไม่เป็นไร อาจจะได้รับบาดเจ็บธรรมดาหรืออาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายผลตรวจออกมาก็ได้แจ้งว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งขณะที่ทราบข่าวตอนนั้นตนทำอะไรไม่ถูกเลย กำลังทำงานอยู่จนทำอะไรไม่ได้เลย พอลูกได้ยินข่าวว่าพ่อเสียชีวิตแล้วลูกก็ร้องไห้ มีแต่ร้องเรียกหาแม่ ให้แม่กลับมาหาอย่างเดียว

น.ส.สุวคนธ์กล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนไปติดต่อกับทางบริษัทที่ส่งไปทำงานแล้ว เบื้องต้นทางบริษัทก็แจ้งเรื่องของเอกสารในการดำเนินเรื่องเอกสารต่างๆ ของลูกว่าจะต้องต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการดำเนินเรื่องส่งไปให้ทางกรมแรงงานและทางประเทศไต้หวัน ส่วนการติดต่อกับทางฝ่ายประเทศไต้หวันนั้นก็มีการติดต่อมาเป็นระยะโดยโทรติดต่อกันทาง LINE ซึ่งในเบื้องต้นตนพูดคุยกับทางบริษัทที่ส่งไปทำงานว่าจะเดินทางไปเผาศพและจะนำเอากระดูกกลับมา ซึ่งการคุยกันยังไม่มีข้อสรุปจะต้องนำเอาข้อตกลงตามที่พ่อแม่ญาติพี่น้องของทางฝ่ายสามีคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

น.ส.สุวคนธ์พนมมือร่ำไห้กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้เพราะว่ามันเร็วเกินไป ความฝันที่เราคุยกันไว้เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยเราอยากมีบ้านให้ลูก มีรถให้ลูก ให้ลูกได้เรียนหนังสือจนจบสูงๆ เรายังไปไม่ถึงไหนเลย สามีก็มาจากตนกับลูกไปแล้ว ตนขอฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีหากเป็นไปได้โปรดช่วยนำศพของสามีตนกลับมาทำบุญที่เมืองไทยบ้านเกิดด้วย แต่ถ้าหากว่ามันไม่ได้หรือยังไงก็ขอให้นำแค่อัฐิกระดูกกลับมาให้ตนกับครอบครัวทำบุญให้นายศักดาสามีของตนที่บ้านเกิด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษด้วย

จู่โจมค้นเรือนจำศรีสะเกษ คว้าน้ำเหลวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ศรีสะเกษ สนธิกำลังผสมกว่า 400 นาย ร่วมจู่โจมตรวจค้นเรือนจำเรือนจำตัดช่องทางติดต่อซื้อขายและลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ

วันนี้ (26 มี.ค.67) นายนพ พงษ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานปล่อยแถวกองกำลังผสมร่วมปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้น เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีตำรวจภูธรจังหวัด , หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 , ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องที่ ชุดชรบ, .ผรส., กองร้อยอาสารักษาดินแดน, ศูนย์อำนวยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวม 425 นาย เข้าตรวจค้นผู้ต้องขัง ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อหยุดยั้งกลุ่มขบวนการและเครือข่ายที่จะใช้เรือนจำเป็นฐานในการกระทำผิด โดยเฉพาะยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย

นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลได้มุ่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ซึ่งการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นองค์รวม และ มีการดำเนินงานอย่างบูรณาการ ประสานสอดคล้องกันของทุกหน่วยงานในทุกมาตรการ โดยจังหวัดศรีสะเกษ ได้เน้นการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และ ที่สำคัญคือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ โดยมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดและการจำหน่ายยาเสพติดในเรือนจำ ตัดช่องทางการติดต่อซื้อขายและการลักลอบนำยาเสพติด ตลอดจนสิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจำอย่างเข้มงวด

เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดสายข่าว ควบคู่การเฝ้าระวังและดำเนินการจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขังมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด เพื่อหยุดยั้งกลุ่มขบวนการและเครือข่ายที่จะใช้เรือนจำเป็นฐานในการกระทำผิด เพื่อเป็นการป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดวินัยของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยมีผู้ต้องขังชาย จำนวน 1,701 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 156 คน รวม 1,857 คน  โดยปฏิบัติภารกิจจู่โจมตรวจค้นและทำการตรวจฉี่หาสารเสพติดในครั้งนี้  ไม่พบผู้กระทำผิด หรือ สิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจำแต่อย่างใด

ศึกดวลแข้งฟุตบอลดารา เพื่อการศึกษา

โรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 ร่วมกับ อบต.บ่อแก้ว แถลงข่าวจัดการแข่งขันฟุตบอลดารา เพื่อการศึกษา

วันนี้ (26 มี.ค. 67) สนามโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายกัมปนาท วังสันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 พร้อมด้วย นายเสมอ สุทนต์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแก้ว และคณะ ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลดารา เพื่อการศึกษา โดยมีผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเครือข่ายศิษย์เก่าโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายกัมปนาท วังสันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 กล่าวว่า ด้วยโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแก้ว อ.วังหิน ร่วมจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอลดารา เพื่อการศึกษา ระหว่างทีมรวมดารา นำโดย อ๊อฟ ชนะพล น้ำ รพีพัฒน์ หนู มิเตอร์ ศรีลอด เชิญยิ้ม เป็นต้น พบกับ ทีม VIP คณะผู้บริหาร ในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและสมทบทุนการศึกษา สร้างศูนย์เรียนรู้ สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และเพื่อปรับปรุงอาคารอนุบาลของโรงเรียนนิคมสร้างตนเองห้วยคล้า 2

ทักษิณ นำชาวบ้านร้องทุกข์ระบบประปาหมู่บ้านสร้าง 4 ปียังใช้งานไม่ได้ ต้องซื้อน้ำใช้ถังละ 300 เป็นอนุสาวรีย์ประปาไร้ประโยชน์

ทักษิณนำชาวบ้านร้องทุกข์ระบบประปาหมู่บ้านสร้าง 4 ปียังใช้งานไม่ได้ เป็นอนุสาวรีย์ประปาไร้ประโยชน์ ชาวบ้านต้องใช้เงินเดือนผู้สูงอายุซื้อน้ำใช้ถังละ 300 บาทใช้ได้ 2 วันน้ำก็หมดแล้วต้องซื้อน้ำต่อเนื่องทำให้เดือดร้อนหนักมาก ขณะที่นายอำเภอขุนหาญสั่งการให้ช่วยเหลือชาวบ้านด่วนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ระบบประปาหมู่บ้านจองกอ หมู่ 2 หมู่ 10 ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายยนต์ สมเพ็ชร อายุ 52ปี ผญบ.หมู่ 10 บ้านโนนทองหลาง และนางทักษิณ เลิศศรีอายุ 61 ปี พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านโนนทองหลางและบ้านกองกอได้นำผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบสภาพของประปาหมู่บ้านจองกอ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านโนนทองหลาง โดยระบบประปาหมู่บ้านจองกอตั้งเป็นแท็งค์น้ำสูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร มีเครื่องปั้มน้ำ ระบบกรองน้ำ มีการต่อสายไฟฟ้าเข้ามาแต่ไม่มีมิเตอร์ไฟฟ้า มีการล็อคกุญแจเอาไว้อย่างแน่นหนา มีการทำรั้วลวดหนามล้อมรอบบริเวณเอาไว้ ภายในบริเวณที่ตั้งระบบประปามีวัชพืชขึ้นรกเต็มพื้นที่ไม่มีการดูแลรักษาและระบบประปาไม่สามารถใช้การได้แต่อย่างใด

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระบบประปาแห่งนี้สร้างขึ้นตามโครงการส่งเสริมสังคมน่าอยู่และพัฒนาคุณภาพชีวิต กิจกรรม ก่อสร้างประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 10 ต.กันทรอม โดยมีหลักการและเหตุผลเนื่องจากบ้านจองกอ หมู่ที่ 2 และบ้านโนนทองหลางหมู่ที่ 10 มีจำนวน 216 ครัวเรือน มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ราษฎรในหมู่บ้านมีน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันจึงได้จัดทำโครงการก่อสร้างประปาหมู่บ้านแบบบาดาลขนาดกลาง

ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีน้ำประปาที่สะอาดและปลอดภัยอุปโภค บริโภค เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคของประชาชน เพื่อประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2562 แต่ว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แต่อย่างใด

นางทักษิณ เลิศศรี อายุ 61 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า พี่น้องชาวบ้าน หมู่ 2 หมู่ 10 บ้านโนนทองหลางและบ้านจองกอ ได้รับความเดือดร้อนมากมีปัญหาระบบน้ำประปาแห่งนี้มาหลายปีแล้ว ตนได้รับเงินเดือนผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน ตนจะต้องนำเอาเงินมาซื้อน้ำถังละ 300 บาทจากพ่อค้าที่นำเอามาขาย ซึ่งใช้ได้เพียง 2 วันน้ำก็หมดแล้ว เงินเดือนผู้สูงอายุ 600 บาท ซื้อน้ำใช้ได้เพียง 2 ถังเท่านั้น ไม่เหลือเงินไปซื้ออาหารกินประทังชีวิตในครอบครัว จะต้องหาเงินมาซื้อน้ำใช้อย่างต่อเนื่องทุกเดือน ไม่ได้ซื้อกับข้าวกินซื้อแต่น้ำใช้แต่น้ำก็ไม่พอใช้ประปาสร้างมานานมานานหลายปีแล้วแต่ก็ไม่สามารถใช้งานได้

ตนจึงขอร้องเรียนว่าขอให้ทางราชการได้ให้เข้ามาช่วยลูกบ้าน หมู่ 2 หมู่ 10 ด้วย ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนักมาก ซึ่งที่หมู่บ้านแห่งนี้จะเริ่มขาดน้ำตั้งแต่เดือน ก.พ.ถึงเดือน เม.ย.ทุกปี ฝนทิ้งช่วงจึงทำให้ไม่มีน้ำใช้ ระบบประปาก็ใช้ไม่ได้สร้างมานานหลายปีแล้ว ชาวบ้านเห็นว่าการสร้างระบบประปาหมู่บ้านจองกอเป็นการสร้างระบบประปาหมู่บ้านเอาไว้เป็นอนุสาวรีย์ เพราะว่าชาวบ้านไม่ได้ใช้งานประปาหมู่บ้านแห่งนี้น่าจะสร้างเป็นอนุสรณ์ระบบประปาหมู่บ้านมากกว่า

นายยนต์ สมเพ็ชร ผญบ.หมู่ 10 บ้านโนนทองหลาง กล่าวว่า นายอำเภอคนก่อนได้แจ้งไว้ว่า งบประมาณก่อสร้างหมดแค่นี้ ช่วงหลังนายอำเภอก็ได้ย้ายไปที่อื่นทำให้ระบบประปาหมู่บ้านจองกอไม่สามารถใช้งานได้ ตนได้พยายามติดต่อกับหน่วยงานต่างๆแต่ติดขัดอยู่ที่ว่าไม่ทราบว่าเป็นโครงการจังหวัดหรือเป็นโครงการของอำเภอ ซึ่งตนได้ไปสืบมาจนรู้แน่ชัดว่าเป็นของจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดศรีสะเกษได้โอนมาให้อำเภอขุนหาญ

ตนจึงได้ติดต่อไปยังเทศบาลตำบลกันทรอมซึ่งปลัดเทศบาลตำบลกันทรอมได้แนะนำวิธีการให้ไปแจ้งเอามิเตอร์ไฟฟ้ามาลงไว้แล้วทางเทศบาลตำบลกันทรอมจะให้ช่างประปาที่อุบลราชธานีมาลองเครื่องให้ ตนจึงขอให้ทางเทศบาลตำบลกันทรอมออกมาเป็นพี่เลี้ยงให้ เพราะว่าชาวบ้านไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องเหล่านี้ เกรงว่าจะใช้เครื่องเหล่านี้ไม่ได้อาจจะพังเสียหายได้ เนื่องจากระบบประปาแห่งนี้สร้างมานานประมาณ 3 – 4 ปีแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เกิดกับชาวบ้านหมู่ 2 และหมู่ 10 แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปด้วย ต่อมา นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอขุนหาญ ได้สั่งการให้ นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง ปลัดอาวุโส อ.ขุนหาญ และนายจตุเพชร บุญเนตร ปลัดอำเภอฝ่ายงานความมั่นคง พร้อมด้วย นายวัฒนา ขันบรรจง ช่างโยธาชำนาญการ สำนักงานเทศบาลตำบลกันทรอม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายทิพย์ เลิศศรี นายกเทศมนตรีตำบลกันทรอมมาพบกับชาวบ้านและได้ร่วมกับนายยนต์ สมเพ็ชร ผญบ.หมู่ 10 กับชาวบ้านร่วมกันตรวจสอบสภาพของระบบประปาหมู่บ้านจองกอ

นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง ปลัดอาวุโส อ.ขุนหาญ กล่าวกับชาวบ้านว่า อ.ขุนหาญรับทราบว่าพี่น้องได้ประสบปัญหาเรื่องระบบประปาหมู่บ้านจองกอก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่สามารถดำเนินการใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ปี 2562 ตนได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ในขั้นต้นคงจะต้องมีการไปขอใช้มิเตอร์ไฟฟ้า จะได้ทำการทดสอบดูก่อนว่าระบบต่างๆมันจะสามารถใช้การได้หรือไม่หากได้มิเตอร์ไฟฟ้ามาแล้ว มาทดสอบดูระบบเครื่องต่างๆ หากพบว่าพังก็จะได้ดำเนินการตรวจสอบซ่อมแซม ซึ่งงบประมาณก่อสร้างแห่งนี้เป็นงบประมาณของจังหวัดศรีสะเกษโดยโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเมื่อก่อสร้างเสร็จก็ได้ทำการมอบให้กับ 2 ส่วนคืออำเภอขุนหาญและเทศบาลตำบลกันทรอม

แต่ปรากฏว่าทางเทศบาลตำบลกันทรอมก็ยังไม่ได้รับมอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางเทศบาลกันทรอมก็ยืนยันว่าจะรับโอนแล้วก็จะไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการระเบียบบริหารระบบประปา โดยจะมีการจัดซื้อจัดจ้างเตรียมแต่งตั้งพนักงานจัดเก็บอะไรต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้คาดว่าต้องดำเนินการโดยใช้เวลาประมาณปีหน้า

นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้ตนก็อยากขอให้พวกเราช่วยกันแก้ปัญหาก่อน โดยการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและทำการทดสอบระบบประปาเมื่อได้ผลประการใดแล้ว ก็จะให้พวกเราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการภายในหมู่บ้านก่อนว่าใครจะเป็นผู้มีหน้าที่จัดเก็บเงิน ราคาใช้น้ำประปาหน่วยละเท่าไหร่ดูประมาณส่วนนี้ แก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อน ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ ตรงนี้จะต้องให้ผู้ใหญ่บ้านได้ดำเนินการก่อน โดยพรุ่งนี้ให้ไปติดต่อขอใช้มิเตอร์ไฟฟ้ากับสำนักงานไฟฟ้าขุนหาญ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 700 บาท จากนั้นให้รายงานไปทางอำเภอ ในรอบต่อไปก็จะมีการประชุมคณะกรรมการกลางระหว่างอำเภอและหมู่บ้านเตรียมรับมอบถ่ายโอนภารกิจระบบประปาหมู่บ้านจองกอต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อชาวบ้านได้รับฟังการแนะนำการแก้ไขปัญหาจากนายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง ปลัดอาวุโส อ.ขุนหาญ แล้วก็เห็นด้วย ซึ่งทางด้าน นายวัฒนา ขันบรรจง ช่างโยธาชำนาญการ สำนักงานเทศบาลตำบลกันทรอม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายทิพย์ เลิศศรี นายกเทศมนตรีตำบลกันทรอมให้มาพบกับชาวบ้านได้แจ้งให้ชาวบ้านทุกคนทราบว่า เงินค่าดำเนินการขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 700 บาทนั้น นายทิพย์ เลิศศรี ได้รับทราบแล้ว และจะขอเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป