จากกรณี เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ได้มีแม่พาลูกสาว 8 ขวบ ป.3 เดินทางจาก จ.ศรีสะเกษ ร้องทุกข์ มูลนิธิ”ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กนักสตรี” หลัง ลูกสาวถูกเจ้าอาวาสวัดหนึ่งใน ต.ปราสาท อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศอนาจารในห้องน้ำวัดที่อยู่ข้างโรงเรียน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลปราสาท อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ กับ พระ ก นามสมมติ อายุ 35 ปี เจ้าอาวาสวัดที่ถูกกล่าวหา ซึ่งจำพรรษามานานถึง 14 พรรษา และมาจำพรรษา อยู่วัดนี้ ได้ 3 พรรษา จนกระทั่งเจ้าอาวาสรูปเดิม ได้มรณะภาพลง
จึงได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่มีการกระทำอนาจารเด็กตามที่เป็นข่าว และมีผู้ร้องเรียน ปรากฏว่า เจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ได้ปฏิเสธ ที่จะให้ข้อมูล และบอกว่าให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย และยืนยันว่า จะไม่สึก หรือออกจากวัด เพราะมั่นใจว่า ไม่มีความผิดในเรื่องนี้ แต่อย่างใด
โดยเจ้าอาวาสวัด ได้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ตนถูกร้องเรียนเช่นนี้ น่าจะมาจากการที่ตนถูกกลั่นแกล้ง จากกลุ่มที่ฝั่งตรงข้าม และผู้ที่มีอคติกับตน ด้วยวัยเพียง 35 ปี ที่ได้เป็นเจ้าอาวาส และความเหมาะสมในด้านต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยถูกร้องเรียนจนกระทั่งถูกพระผู้ใหญ่ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งในเรื่องของ การใช้วาจาไม่เหมาะสม ต่อคณะสงฆ์ด้วยกัน การพกหนังสติ้กไปยิงสุนัข ตลอดจนกล่าวหาว่ามีปืนและอีกหลายๆเรื่อง ซึ่งโดนกล่าวหาทั้งหมด 12 ข้อ โดยมีทั้งเรื่องจริง ไม่เป็นเรื่องจริง
แต่ที่ส่วนเรื่องที่ตนทำอนาจาร นั้น ตนยังไม่ขอกล่าวถึง ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย แต่ตนขอพูดถึงจุดเชื่อมโยง ที่ทำให้ตนโดนร้องเรียนและกลั่นแกล้งเช่นนี้ คือเรื่องการที่ตนได้เป็นเจ้าอาวาส และเรื่องเงินของวัด ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นไปตามที่ชาวบ้าน เขาแต่งตั้งให้ตนเป็น ส่วนเรื่องเงินของวัดก็มีการนำเข้าออกอย่างชัดเจน และมีบัญชีรายรับรายจ่าย ที่สามารถตรวจสอบได้ แต่กลับมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ชอบ มาใส่ร้าย ซึ่งตนก็ไม่สามารถกล่าวว่าได้เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา
แต่ตนยืนยัน ว่าจะไม่ลาออก เพราะตนไม่มีความผิดทางศาสนา ส่วนเรื่องร้องเรียนอย่างที่ตนบอก คือให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป