ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 กันยายน 2565 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่ลำน้ำมูล บริเวณเขื่อนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ นายอำเภอราษีไศล นายภานรินทร์ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างเขื่อนราษีไศล ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปข้อมูลให้ได้รับทราบ
นายภานรินทร์ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างเขื่อนราษีไศล เปิดเผยว่า น้ำในเขื่อนราษีไศลซึ่งมีต้นน้ำมาจากจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ผ่านมาศรีสะเกษ และจะไปลงที่จังหวัดอุบลราชธานี วันนี้มีมวลน้ำปริมาณน้ำมาก เนื่องจากมีฝนตกหนักมาอย่างต่อเนื่องมาเมื่อเดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนกันยายนนี้จึงส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนราษีไศลมีระดับสูงขึ้น วันนี้ มีระดับน้ำสูงถึง +119 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นระดับสูงสุดของเขื่อนราษีไศล ซึ่งจะต้องแจ้งเตือนภัยเป็นระดับธงสีแดง ที่ผ่านมาเขื่อนราศีไศลได้ยกบานระบาย บานละ 4.50 เมตร 6 บานและยกแขวน 1 บาน ปรากฏว่า มวลน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนราษีไศลอยู่ที่ 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 74 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ดังนั้น วันนี้ เขื่อนราษีไศลจึงได้กำหนดเปิดบานระบายน้ำยกแขวนทั้ง 7 บานในเวลา 15.00 น. เพื่อให้น้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศลไปตามธรรมชาติโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยวันนี้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศล 960 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 83 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมีจำนวนเท่าไหร่ก็จะไหลผ่านไปทั้งหมด เพื่อลดระดับน้ำที่จะเอ่อท้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรหน้าเขื่อน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร
ด้านนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของชลประทานและทางเขื่อน ก็ไม่ได้ดูเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษของเราเท่านั้น ยังต้องดูถึงพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่เป็นต้นน้ำ ตามที่เขื่อนราศีไศลจะทำการแขวนบานระบายทั้ง 7 บานนั้น จะช่วยทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนจะลดลง จึงขอให้ประชาชนสบายใจ
ส่วนทางท้ายน้ำทางเขื่อนราศีไศลก็ได้แจ้งเตือนให้หน่วยงานราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ได้แจ้งให้ประชาชนได้ป้องกันระวังระดับน้ำที่จะสูงขึ้นเนื่องจากการระบายน้ำของเขื่อนราษีไศล น้ำที่ไหลออกจากเขื่อนจะไหลสู่จังหวัดอุบลราชธานีและลงแม่น้ำโขงจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากที่อำเภอพิบูลมังสาหารได้มีการใช้เครื่องผลักดันน้ำเพิ่มขึ้นทำให้น้ำไหลได้รวดเร็วจะไม่ทำให้มีน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อนราษีไศลและพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีด้วย.