เก๋งพลิกคว้ำไม่ยอมให้ช่วย​ ตรวจค้นพบยาบ้ากว่าแสนเม็ด


เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองศรีสะเกษ​ ออกตรวจสอบ รถยนต์เก๋งประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลาง ก่อนข้ามเลนไปตกคลองน้ำอีกฝั่ง ขณะกำลังจะช่วยยกรถ คนขับรถเก๋งยังจะขับรถยกหนีเจอพิรุธ ชกต่อยกัน ก่อนจะพบยาบ้าที่ซุกซ่อนมาในรถจำนวน 118,000 เม็ดพร้อมอาวุธปืน 9 มม. เครื่องกระสุนปืน 64 นัด

วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ร้อยตำรวจเอก สำราญศักดิ์ แซงเพชร ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ รับแจ้งมีรถยนต์เก๋งประสบอุบัติเหตุถนนเส้นบายพาส หนองครก-พืชสวน บริเวณหน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จึงออกไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถยกเพื่อทำการช่วยเหลือเบื้องต้น

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณเกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ ฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ชฮ 8248 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในคลองน้ำข้างทาง และพบผู้ที่ขับรถยนต์ดังกล่าวมาได้รับบาดเจ็บทราบชื่อภายหลัง นายอมร ผิวเกลี้ยง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 6 ตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยช่วงแรกที่เจอ นายอมรได้ทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะทำการชิงรถยกคาดจะหลบหนีจึงได้ควบคุมตัวไว้เพราะมีพิรุธ จากนั้นได้ตรวจสอบภายในรถมีถุงพลาสติกสีแดงที่ใส่กล่องนมยี่ห้อหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเข้าไปดูกลับพบว่าเป็นห่อยาเสพติดชนิดยาบ้า ที่แพคอัดพลาสติกไว้อย่างเรียบร้อยจำนวน 19 แพค บรรจุยาบ้าไว้ จำนวนแพคละ 3 ห่อ พร้อมพบอีกหนึ่งแพคที่อัดไว้ 2 ห่อ นับรวมยาบ้าได้ทั้งหมด 118,000 เม็ด ขณะเดียวกันยังพบอาวุธปืน 9 มม . อีกหนึ่งกระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวน 64 นัดที่พร้อมใช้งาน

จากนั้นได้รายงานให้ พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาร่วมตรวจสอบสอบสวน ร่วมกับ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น

นายอมร​ ผู้ที่ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาเล่าให้ฟังว่า ตนออกจากบ้านแฟนมาเมื่อค่ำวานนี้ จากอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ก่อนที่จะเดินทางมาพบเพื่อนสนิท ในเขตอำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นได้ร่วมนั่งดื่มทานข้าวกันทั้งคืน ก่อนที่จะเดินทางกลับที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยเพื่อนได้ฝากถุงพลาสติกสีแดงดังกล่าวไปให้คนอยู่ที่จังหวัดจะเชิงเทราด้วย ซึ่งตนขอปฏิเสธว่าตนไม่ทราบว่าเป็นยาบ้าที่เพื่อนฝาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในแก๊งค์ขบวนการค้ายาบ้าข้ามจังหวัดจึงได้รวบรวมหลักฐานพร้อมโทรศัพท์มือถือเพื่อจะใช้ในการแกะรอยสืบหาต้นตอแหล่งที่ไปที่มาของยาเสพติด รวมทั้งกระบวนการดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป