จังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนราษฎรนำเงินเดือนมาจัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด พร้อมตระเวนออกให้ความรู้ทุกหมู่บ้าน ก่อนที่จะร่วมให้ชาวบ้าน ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยา ก่อนที่จะได้จัดแบ่งปันน้ำยาฆ่าเชื้อให้ฟรี ไปฉีดเอง
วันนี้ (12 เม.ย.63) ที่ วัดบ้านหนองเตา ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ผู้แทนราษฎรศรีสะเกษ เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาชี้แจงแก่ผู้นำชุมชน ในเรื่องสถานการณ์โรคไข้โควิด -19 เพื่อสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะการติดต่อที่ทุกคนจะต้องรู้จริง จะได้ระวังป้องกัน ทั้งตนเอง คนในครอบครัว คนในหมู่บ้าน และยังได้แนะนำให้ทุกคนเฝ้าระวังผู้คนที่เดินทางมาจากทั้งจากประเทศ และหรือ มาจากกรุงเทพ ต่างจังหวัด ที่จะต้องแนะนำเขา ให้เขาได้กักตนเองอยู่แต่ในบ้าน แยกตนออกจากบุคคลอื่นๆ แยกทุกอย่าง ทั้งการอยู่ การกิน ให้พ้นระยะเฝ้าระวังตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ ห่างกัน 14 วัน
นอกจากนี้ยังได้ขอให้ทุกคนได้มั่นล้างทำความสะอาดมืออย่างถูกวิธีบ่อยๆ หากสงสัยให้สอบถามกับ อสม.ประจำหมู่บ้าน รวมทั้งทุกครั้งที่จะออกมาจากบ้าน จะต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องการแพร่เชื้อทั้งจากตนเอง ที่อาจะยังไม่แสดงอาการ และป้องกันการที่จะต้องรับเชื้อจากบุคคลอื่นที่มาพูดคุยกับเรา พร้อมกันนี้ ส.ส.ได้นำการสาธิตในการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยแนะนำว่า การฉีดพ่นไม่ได้ช่วยอะไรไปมากกว่าการระวัง และมั่นล้างมือ แต่เพื่อความสบายใจของคนในชุมชน แต่ก็จะต้องฉีดพ่นในที่อับแสงแดด เพราะเชื้อหากโดนแสงแดดเพียง 6 นาที ก็จะตายแล้ว ตามคำแนะนำของมหาวิทยาลัยมหิดล
นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ผู้แทนราษฎรศรีสะเกษ เขต 7 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันนี้มาให้ความรู้และสาธิตการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านที่จะปลอดโรค และปลอดภัยจากเชื้อนี้ ซึ่งก่อนที่จะทำงานก็จะต้องแนะนำว่า น้ำยาที่นำมาให้ในวันนี้เป็นน้ำยาที่ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า การฉีดพ่นก็จะต้องฉีดพ่นไปในที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง เพราะไม่เช่นนั้นพี่น้องก็จะไปฉีดพ่นตามริมรั่ว ซึ่งไม่จำเป็น เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้เมื่อถูกแสงแดด และอยู่ในอากาศจะตายภายใน 5 – 6 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมหิดล
โดยเน้นในการให้พี่น้องได้มีส่วนร่วมในการนำน้ำยาไปฉีดพ่นยังห้องนอน ยังบ้านตนเอง โดยเฉพาะพื้นที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนทุกคน และในการจัดน้ำยามาแจกฟรีในคราวนี้ ก็เป็นงบประมาณจากเงินเดือนของ สส. เอง ที่ได้มาจากภาษีประชานทุกคน ที่หลายคนถามหาว่า ให้ สส.ร่วมบริจาคเงินเดือนให้มาช่วยดูแลรักษาฆ่าโควิด ซึ่งจริงๆ แล้ว ในส่วนของตนเอง เงินเดือนที่ได้มาก็พยายามในการหาทางที่จะส่งคืนให้กับพี่น้องประชาชนในหลายรูปแบบมาโดยตลอด ตั้งแต่ตนได้เป็น สส.มา
