โรงพยาบาลนำศพหนุ่มขุนหาญที่เสียชีวิตจากโรคไวรัส โควิด 19 มาเผาในวัดบ้านเกิด ชาวบ้านผวา เกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจายในหมู่บ้าน
วันที่ 5 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดตาเอก ตำบลกันทรอม อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากทราบว่าที่วัดดังกล่าวได้มีการนำศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 จากโรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ (นายอำพล พิลาดี อายุ 31 ปี 122 หมู่ 8 ตำบลกันทรอม อำเภอขุนหาญ) มาฌาปนกิจเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2563 และชาวบ้านในหมู่บ้านตาเอกที่รู้ข่าวต่างหวาดผวา เกรงว่าเชื้อของโรคไวรัสโควิด19 จะมาแพร่ระบาดติดคนในหมู่บ้าน

พระสมาน สุปะภาโส เจ้าอาวาสวัดตาเอก เล่าว่า ในเมื่อทางอำเภอ และทางสาธารสุขมาขอเผาในวัดบ้านเรา ซึ่งผู้ตายก็เป็นคนในหมู่บ้าน เป็นลูกหลานบ้านเรา ถ้าวัดบ้านเกิดเข้าไม่ให้เผาแล้วจะเอาศพเขาไปเผาที่ไหน โดยพิธีทำอย่างเรียบง่ายไม่มีพิธีทางศาสนา ไม่ให้เวลายืดเยื้อยาวนาน ไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาใกล้ มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เขาแต่งตัวอย่างรัดกุมป้องกันตัวเองเต็มที่เพื่อความปลอดภัย เมื่อรถบรรทุกศพมาถึงก็มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจนทั่วทั่งรอบเมรุ และรถบรรทุกศพ หลังจากเผาศพเสร็จแล้วก็ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้ออีกครั้ง

นายกุล ศรีภักดิ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านตาเอกกล่าวว่า ชาวบ้านก็กลัวกันอยู่ ต่างก็คิดและพูดกันไปต่างๆ นาๆ เกรงว่าเชื้อโรคนี้ซึ่งน่ากลัวมากจะมาแพร่ระบาดติดชาวบ้านในหมู่บ้าน ในส่วนตัวของตนคิดว่า ในเมื่อศพได้ถูกเผาด้วยความร้อนสูงแบบนี้แล้วเชื้อก็น่าจะตายไปหมดแล้วไม่มีมาแพร่ระบาดได้อีก

ด้านนายชัยภัทร ไตรศรี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านตาเอกพัฒนา หมู่ 13 ตำบลกันทรอม ซึ่งมีพื้นที่ติดวัด กล่าวว่า ชาวบ้านที่เป็นลูกบ้านก็รู้สึกกลัวกัน ไม่อยากให้นำศพมาเผาที่วัดนี้ ตนก็บอกลูกบ้านว่า ทำอย่างไรได้ในเมื่อวัดบ้านเราเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของคนตาย ถ้าไม่เผาที่จะให้ไปเผาที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ได้ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลได้จัดการกับศพมาเป็นอย่างดี ป้องกันเชื้อแน่นหนา ห่อพลาสติกหลายชั้นป้องกันเต็มที่ แต่ทางชาวบ้านลูกบ้านก็ยังหวั่นกลัวกันอยู่ ซึ่งก็ได้เตือนให้ชาวบ้านป้องกันตนเองไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน ถ้าจำเป็นต้องออกไปข้างนอกก็ให้ป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด.