ตำรวจขุขันธ์แกะภาพจากกล้องวงจรปิดล่าโจรใจบาปงัดตู้บริจาควัดในโบสถ์จนจับได้ นำตัวชี้ที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2563 ที่วัดบ้านหัวเสือ อำเภอขุขันธ์ จังหัวดศรีสะเกษ ร้อยตำรวจเอก มนตรี พันธ์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ และ พ.ต.ต. ปฏิธาน โคกกลาง สารวัตรสืบสวน พร้อมกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง นำตัวนายธนบรรณ ภูจอมนาค อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนปดิพัทธ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะหลังจากที่ตำรวจจับกุมมาได้เมื่อเย็นวันที่ 10 เมษายน 2563 ที่ตู้ยามตำรวจสามแยกตรางสวาย ตำบลดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 ร้อยตำรวจเอก มนตรี พันธ์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดแงะตู้บริจาคภายในอุโบสถวัดบ้านหัวเสือ ตำบลหัวเสือ อำเภอขุขันธ์ ขโมยไปกว่า 1,000 บาท โดยกล้องวงจรปิดทั้งหน้าโบสถ์และภายในโบสถ์จับภาพคนร้ายไว้ได้ ตำรวจชุดสืบสวน นำโดย พันตำรวจโท จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รองผู้กำกับการสืบสวน ทำการสืบสวนติดตามหาคนร้ายตามภาพ

จนกระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุงัดตู้บริจาคในครั้งนี้ คือนายธนบรรณ ภูจอมนาค ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานคร แต่ได้มาพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านคลองสุด หมู่ 10 ตำบลหัวเสือ จึงติดตามตัวเรื่อยมาจนกระทั่งเวลา 18.40 น.วันที่ 10 เมษายน 2563 ตำรวจพบนายธนบรรณขี่จักรยานสองล้อผ่านบริเวณหน้าตู้ยามตำรวจสามแยกตรางสวาย จึงจับกุมตัวไว้ได้พร้อมกับยึดจักรยานสองล้อของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ

นายธนบรรณ ได้ให้การรับสารภาพ ตนเป็นบุคคลตามภาพในกล้องวงจรปิดจริง และตนได้เข้าไปงัดตู้บริจาคขโมยเงินในโบสถ์จริง โดยเงินที่ได้มาก็นำไปให้ภรรยาใช้จ่ายและก็นำบางส่วนไปกินเหล้า แต่ไม่ได้เสพยาเสพติด ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายธนบรรณว่า ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดหรือเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร นำตัวพร้อมจักรยานของกลางส่งฝากขังต่อศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
