ศรีสะเกษ – ชาวภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ บวงสรวง “ปราสาทโดนตวล” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใกล้เขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (30 ส.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปราสาทโดนตวล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนเขาพระวิหาร พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงปราสาทโดนตวล มี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิชิตร ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายโชคชัย ดวงแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย ร่วมพิธี

โดยนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนา พร้อมนำชาวบ้านภูมิซรอล และตัวแทนชาวบ้านจากทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย ประมาณ 200 คน นำเครื่องเซ่นไหว้บวงสรวง ประกอบด้วย พานบายศรี อาหารคาวหวาน ประกอบพิธีบวงสรวงปราสาทโดนตรวล ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ที่มารักษาความปลอดภัย

ปราสาทโดนตวล เป็นปราสาทขอมโบราณขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูง บนเทือกเขาพนมดงรัก ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วยปรางค์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุม ก่อด้วยอิฐ ซุ้มประตูก่อด้วยศิลา และมีรูปสิงโตจำหลักอยู่หน้าปราสาท ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก หน้าปราสาทมีถนนปูด้วยหินขนาดเล็ก กว้าง 6 เมตร มีเสาหิน 2 คู่ สูง 3 เมตร อยู่ห่างกันราว 250 เซนติเมตร ซุ้มประตูทางเข้าปราสาท มีรูปสิงโตจำหลักตั้งอยู่บนแท่นข้างละ 1 ตัว ตัวปราสาท ประกอบด้วย ซุ้มประตู และปรางค์ 2 องค์ ซุ้มประตูมี 3 ประตู ก่อด้วยศิลา ประตูกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด กว้าง 1 เมตร สูง 2.5 เมตร ประตูเล็กซ้ายขวา กว้าง 70 เซนติเมตร สูง 1.8 เมตร กรอบประตู และศิลาทับหลังไม่ได้จำหลักลวดลาย

สำหรับพิธีบวงสรวงปราสาทโดนตรวล เป็นประเพณีที่ชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ปฏิบัติมาเป็นประจำหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากชาวบ้านตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร เชื่อว่า ปราสาทโดนตรวลมีความศักดิ์สิทธิ์ หากบวงสรวงแล้วจะช่วยให้การทำไร่ ทำนา และการประกอบสัมมาอาชีพต่างๆ เป็นไปด้วยความราบรื่น

อีกทั้งเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของทหารไทย และกัมพูชาที่เสียชีวิตจากการสู้รบบริเวณเขาพระวิหาร และที่สำคัญคือ ชาวบ้านภูมิซรอลทุกคน ขอวอนให้อำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของปราสาทโดนตรวล ส่งผลให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร เพื่อประชาชนทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชาจะได้อยู่อย่างมีความสุขตลอดไป