รวบผัวเมียใช้แบงค์ 100 ปลอม​เติมเงิน


ตำรวจศรีสะเกษ รวบสองสามีภรรยา ใช้แบ๊งค์ร้อยปลอมเติมเงิน

*เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พลตำรวจตรี ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พันตำรวจเอก ชยากร เทศะบำรุง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นางสาว สุพรรษา สินศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 19 ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกันทรลักษ์ที่ 7/64 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และนายหวา ราชรินทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 18 ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี (พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม) ของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อชูชูกิ รุ่นสแมส สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง 3.บัตร เอทีเอ็ม จำนวน 8 อัน 4.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 เล่ม 5.ซองบรรจุซิม ทรู จำนวน 4 หมายเลข 5.ธนบัตรรัฐบาลไทยปลอม ฉบับละ 100 บาท หมายเลข 2 จ 7471486 จำนวน 321 ฉบับ 6.ถุงมือตัดปลายนิ้ว จำนวน 1 อัน 7.ซิมการ์ด จำนวน 4 หมายเลข 8.หมวกกันน็อค 1 อัน

สืบเนื่องจากเมื่อ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 ได้มีคนร้ายก่อเหตุใช้ธนบัตรปลอมหยอดตู้เติมเงิน ในท้องที่ สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ พันตำรวจเอก นรินทร์ บุพตาผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ ได้รายงานให้ พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ทราบและได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ และกำลังสายตรวจและสายตรวจตำบล ให้สืบสวนหาตัวคนร้าย และตรวจสถานที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน ตรวจที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีหลายจุดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้และพบเป็นภาพบุคคลต้องสงสัย จํานวน 2 คน ขับขี่ รถจักรยานยนต์ ชูชูกิ สแมช สีน้ําเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาใช้บริการตู้เติมเงิน โดยมีบุคคล ลักษณะคล้ายผู้หญิง สูงประมาณ 150-160 เซ็นติเมตรรูปร่างอ้วน ใส่กางเกงขายาว ร้องเท้าผ้าใบ ขอบพื้นสีขาว สวมเสื้อ แขนยาว สวมหมวกกันน็อค สวมหน้ากาก ปกปิดใบหน้า ลงมานําธนบัตรฯหยอดเงินเข้าตู้เติมเงิน และพบบุคคล ลักษณะคล้ายชาย ผอมบาง อยู่ประจํารถจักรยานยนต์ นั่งซ้อนท้าย ซึ่งธนบัตรที่ตรวจพบ ดังกล่าว เป็นธนบัตรปลอม ที่หยอดเข้าตู้เติมเงิน แต่ละจุด โดยทราบข้อมูลทางเทคนิคจากเจ้าหน้าที่ตู้เติมเงินที่เสียหาย โดยทราบว่าธนบัตร(ปลอม) นั้นถูกโอนเข้าหมายเลข 098-3256038 เป็นธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท จํานวน หลายใบ จากนั้นจึงได้ประสานกองบังคับการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 โดยใช้อํานาจหน้าที่ดําเนินการอันเป็นความผิดทางอาญาเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย ตรวจสอบโทรศัพท์หมายเลข 098-32xxx38 พบว่า ที่คนร้ายนําธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท หยอด ลงตู้เติมเงิน(ผู้เสียหาย) โดยโอนผ่านระบบทรูวอลเล็ท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบข้อมูลกับบริษัททรูวอลเล็ท ที่เติมเงินเข้าโทรศัพท์หมายเลข 098-32xxx38 ปรากฏว่าโทรศัพท์หมายเลข 098-32xxx38 ผูกบัญชี ทรูวอลเล็ท เมื่อยอดเติมเงิน(เงินปลอม)เข้าบัญชี ทรูวอลเล็ท จากนั้นจะโอนไปยัง ยังบัญชี ทรูวอลเล็ท หมายเลขโทรศัพท์หมายเลข 095-31xxx39 จากนั้นจะโอนเงินเข้า บัญชีธนาคารกรุงxxx เลขที่บัญชี 3330xxx234 (ซึ่งเจ้าของหมายเลขนั้นได้ให้บัตร เอทีเอ็มและสมุดบัญชี ไว้กับ นางสาว สุพรรษา สินศรี เป็นผู้ถือ) จากนั้นจะโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของนางสาว สุพรรษา สินศรี อายุ 30 ปี ที่อยู่ 116 หมู่ 19 ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี และ น.ส.สุพรรษา สินศรี จะกดเงินสดจากบัตร เอทีเอ็ม/บัญชีของตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ ทั้งหมด(รวมทั้งเขต safety zone ) ปรากฏพบภาพคนร้ายทั้งสองโดยตลอด และตรวจสอบภาพและใบหน้าจากกล้องวงจรปิดและภาพถ่ายทะเบียนราษฎร์ ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกัน

พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ขออนุมัติออกหมายจับ นางสาว สุพรรษา สินศรี ที่7/64 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 จากนั้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพัน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามเพื่อจับกุมและจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหานั้นมาพักอาศัยที่ห้องพักเลขที่ 2 เมมโมรี่เฮ้าส์ เลขที่ 92 หมู่ที่ 11 ตำบลหนองหญ้าลาด อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นปรากฏพบผู้ต้องหาตามหมายจับ และผู้ต้องหายอมรับอีกว่ามีสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดซุกซ่อนอยู่ที่หอพัก บานชื่น ไม่ทราบเลขที่ห้อง ห้องที่ 4 นับจากด้านหน้า บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 12 บ้านแดนเกษม ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้ของกลางทั้งหมด และธนบัตรที่ตนเองนำมาใช้นั้นได้ซื้อผ่านทางอินเตอร์เนตแล้วนำมาใช้เติมเงิน โดยซื้อมาจำนวน 30,000 บาท ซื้อในราคา 7,500 บาท

ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนว่า มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม และได้มาซึ่งธนบัตรปลอมโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมแล้วยังขืนนำออกใช้ นำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ ดำเนินคดีต่อไป.