รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง ติดตามการให้บริการครบวงจรเบ็ดเสร็จโครงการเราชนะที่จังหวัดศรีสะเกษ มีประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนเดินทางสมัครร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (28 ก.พ.64) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ติดตามการให้บริการครบวงจรเบ็ดเสร็จ หรือ จุดบริการ One Stop Service โครงการเราชนะ มีนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถาบันการเงินของรัฐร่วมให้การต้อนรับ
ธนาคารกรุงไทยสาขาอำเภอขุขันธ์ ได้เปิดให้บริการภายในหอประชุมที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ มีประชาชนสนใจเดินทางมาสมัครร่วมโครงการเราชนะจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน หรือ ผู้สูงอายุ ลูกหลานได้พามาสมัครร่วมโครงการตั้งแต่ช่วงเช้า
ปัญหาที่พบในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยื่นสมัครแล้ว เมื่อจะสแกนใบหน้ายืนยันเป็นเจ้าสิทธิ์ บางคนรูปในบัตรประชาชนกับตัวจริงไม่เหมือนกัน การสแกนใบหน้าจึงเกิดความล่าช้าและต้องใช้เวลานาน กว่าจะสแกนผ่านและได้รับการยืนยันสิทธิ์ หรือ บางคนมีหนวดก็ทำให้การสแกนล่าช้าเช่นกัน อีกทั้งเครื่องสแกนที่ใช้อาจไม่เสถียรจากอินเตอร์เน็ตจึงทำให้เกิดความล่าช้า
จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง ได้เดินทางติดตามสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นกลุ่มพิเศษที่รัฐบาลมุ่งให้ความช่วยเหลือร่วมโครงการเราชนะเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องมืออุปกรณ์ไปดำเนินการถึงบ้านหรือที่พัก เพื่อให้สามารถมีสิทธิ์ตามโครงการเราชนะเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเบื้องต้น ประชากรจังหวัดศรีสะเกษ มีประมาณ 1.41 ล้านคน ยอดสมัครร่วมโครงการเราชนะประมาณ 9 แสนคน ได้รับการตรวจสอบยืนยันสิทธิ์แล้ว 8 แสนคน ขณะที่กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนได้รับสิทธิ์แล้ว 3 หมื่นคน ซึ่งระยะเวลาที่เหลือคาดว่าจะเดินทางมาสมัครเรื่อยๆ เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่ม 3 และ กลุ่ม 4 เป็นกลุ่มผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือ แจ้งสละสิทธิ์
ปัญหาดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ตกหล่นหรือไม่สามารถเดินทางมาสมัครร่วมโครงการเราชนะได้ ขอให้แจ้งต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง หรือ คลังจังหวัด เพื่อจะได้นำไปพิจารณาหาทางเยียวยาช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด เพราะรัฐบาลประกาศชัดเจนเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นั่นเอง