ตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกับตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ไล่ล่าสกัดรถแก๊งค้ายาบ้า ยิงกันสนั่นกลางเมืองเหมือนในหนัง ชาวบ้านหนีตายวุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 พันตำรวจเอก ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ออกตรวจที่เกิดเหตุหลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวน ชุดปราบปราม และตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ปิดล้อมไล่ล่าผู้ต้องสงสัยที่ขับรถกระบะ อีซูซุ แบบแคป ทะเบียน บต 6544 ศรีสะเกษ หนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่และขับรถชนรถเจ้าหน้าที่และรถของชาวบ้านเสียหายหลายคัน คนในรถมีการยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่หลายนัดเจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้
โดยผู้ต้องสงสัยได้ขับรถซึ่งยางล้อหลังซ้ายแตกหลบหนีเข้าไปในชุมชนหนองยาง หมู่ 6 ตำบลหนองครกอำเภอเมืองศรีสะเกษ เห็นว่ารถไปไม่ไหวแล้วจึงได้เลี้ยวเข้าจอดในที่จอดรถหอพักไม่มีชื่อแห่งหนึ่งในชุมชนหนองยาง ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีเข้าป่าลัดเลาะไปตามบ้านของชาวบ้านจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้ทั้งสองคน พบปืนที่ทิ้งไว้ 2 กระบอก กระสุนอีก 100 กว่านัด
พันตำรวจเอก ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติดมาจากจังหวัดอุบลราชธานี แล้วนำยาบ้ามาส่งยังท้องที่อำเภอมหาชนะชัยนำยาบ้าวางไว้ให้ลูกค้า ตำรวจที่ติดตามมาเก็บยาบ้าได้จำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะไล่ติดตามรถกระบะอีซูซุทะเบียน บต 6544 ศรีสะเกษ จนเข้ามาในเขตจังหวัดศรีสะเกษ
จึงประสานตำรวจเมืองศรีสะเกษช่วยสกัดจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้นำรถจอดปิดทางที่บริเวณสี่แยกซุ่นเฮง เป็นสี่แยกถนนกวงเฮงตัดกับถนนวันลูกเสือ รถผู้ต้องสงสัยได้วิ่งมาจากทางหน้าโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย มาถึงสี่แยกซุ่นเฮงรถคันอื่นกำลังติดไฟแดงอยู่ คนขับเห็นตำรวจตั้งด่านสกัดอยู่จึงได้ขับรถข้ามเกาะกลางถนนวิ่งย้อนศรไปชนกับรถของตำรวจ และไปชนรถชาวบ้านคันอื่นจนเสียหายไปอีกหลายคัน และมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตำรวจจึงได้ยิงตอบโต้
ผู้ต้องสงสัยขับหนีไปชุมชนหนองยางจนกระทั่งจับได้ 2 คน ทราบชื่อคือนายธีระวัฒน์ หล้าธรรม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 8 ตำบลหนองอึ่ง อำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นคนขับ และนายเอกชนดาวเรือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2ตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล
เบื้องต้นตำรวจได้นำตัวไปสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.