ตำรวจเมืองศรีสะเกษ รวบสองหนุ่มตระเวนขโมยถังแก็ส งัดตู้เติมน้ำมัน และตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ซ้ำเติมประชาชนในช่วงโควิดระบาดทำให้หากินลำบาก ขโมยในท้องที่ 9 อำเภอ กว่า 30 คดี
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 1 ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย พันตำรวจโท บุญธรรม ฝั่งสระ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) พันตำรวจตรี รัฐสภา จันทนุกูล สารวัตรสืบสวน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และตำรวจชุดสืบสวน
นำตัวนายสถิตย์ อ่อนกลิ่น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 6 ตำบลหนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ และนายพงศธร แสงอรุณ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 11 ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร แต่มาอยู่กับภรรยาในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ ไปชี้ที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมมาได้เมื่อบ่ายวานนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2564
พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนหาข่าวติดตามจนพบว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นนี้ตำหนิรูปพรรณแบบนี้จึงติดตามรถรุ่นนี้มาตลอด
จนกระทั่งเมื่อบ่ายวานนี้ ก็พบรถยี่ห้อนี้รุ่นนี้อยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านถนนอุบล ตำบลโพธิ์อำเภอเมืองศรีสะเกษ จึงเข้าไปสอบถามคนขับคือนายพงศธร แสงอรุณ ตำรวจขอตรวจปัสสาวะพบว่ามีผลเป็นบวกจึงคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ
จากการสอบปากคำนายพงศธรให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายสถิตย์ อ่อนกลิ่นตระเวนลักถังแก๊สตามร้านค้าต่างๆ ขับรถติดป้ายทะเบียนปลอมที่ขโมยป้ายรถของชาวบ้านมาสวมทับทะเบียนรถที่ใช้อยู่ ขับผ่านไปตามถนนในหมู่บ้าน พบตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญก็จะใช้คีมตัดเหล็กตัดแล้วเข้าไปงัดตู้ข้างในขโมยเงินไปใช้
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า ถังแก๊สที่ขโมยได้ ส่วนใหญ่จะเป็นถังขนาด 15 กิโลกรัม จะนำไปขายให้คนรู้จักกันในราคาถังละ 900 บาท ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปเชิญตัวคนที่นายพงศธรและนายสถิตย์ให้การว่ารับซื้อถังแก๊สมาสอบปากคำ 2 คน
ทั้งสองคนก็ได้ให้การรับสารภาพว่ารับซื้อถังแก๊สจากทั้งสองคนจริง ซึ่งตำรวจจะได้แจ้งข้อหาทั้งสองคนว่ารับซื้อของโจร และจะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป” พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ กล่าว.