สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์รวมตัวบุกศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ร้องผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้ช่วย เนื่องจากสมาชิกเสียชีวิตญาติไม่ได้รับเงินจากสมาคม
วันนี้ (3 ก.พ. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานพระบรมรูป ร.5 หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย จำนวนประมาณ 300 คน นำโดยนางสาว นุชนารถ ไยรักษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 10 ตำบลแขม อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากมีสมาชิกหลายรายเสียชีวิตแต่ไม่ได้รับเงินจากสมาคม
นางสาว นุชนารถ ไยรักษ์ เปิดเผยว่า ที่พวกเรามาวันนี้ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่ญาติของสมาชิกที่เสียชีวิตไม่ได้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ มาตั้งแต่ปี 2563-2564 โดยสมาคมดังกล่าวนี้ ชื่อ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ถนนศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย ตำบลตาเกษ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี ดร.สามัคคี เดชกล้า เป็นผู้ก่อตั้ง ไม่จ่ายเงินสงเคราะห์กรณีสมาชิกเสียชีวิต ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ 890 ราย รวมเงินสงเคราะห์ที่ค้างจ่าย 445,000,000 บาท นอกจากไม่จ่ายเงินสงเคราะห์ให้ญาติผู้เสียชีวิตแล้วยังเก็บค่าสมาชิกรายปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีอีก ใครไม่จ่ายก็ติดสิทธิ์การเป็นสมาชิก
นางสาว นุชนารถ กล่าวต่อไปว่า พวกเราจึงมาขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรา บางครอบครัวสมัครเป็นสมาชิก 2-3 คน ต้องจ่ายเงินเข้าสมาคมปีละ 10,000 กว่าบาท ทำให้เดือดร้อน พวกเราต้องการให้สมาคมยุติการดำเนินงาน ไม่ต้องดำเนินกิจการต่อไป เนื่องจากทำต่อไปก็จะเก็บเงินจากสมาชิกสูงขึ้น แต่สมาคมมีแต่ขาดทุน ไม่มีเงินจ่ายให้ญาติของผู้เสียชีวิต ขอให้ช่วยพวกเราโดยด่วนด้วย
เวลาที่กลุ่มสมาชิกสมาคมมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการ จึงได้มอบหมายให้นายบุญชวัฒน์ ปัญญาแดง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ออกมารับหนังสือของกลุ่มผู้เรียกร้องแทน ซึ่งนายบุญชวัฒน์ได้นำตัวแทนกลุ่มผู้เดือดร้อนเข้าไปหารือในห้องประชุม ชี้แจงทำความเข้าใจ โดยจะได้นัดหมายให้นายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มาร่วมประชุมหารือในเรื่องการแก้ไขปัญหาของสมาชิกสมาคมผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วต่อไป ซึ่งกลุ่มสมาชิกที่มาชุมนุมได้รับฟังแล้วพอใจในการเร่งแก้ไขปัญหาของจังหวัดจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้านไป.