หลังจากเสร็จฤดูเก็บเกี่ยว ชาวนาก็ออกหาซื้อเหมาบ่อหรือสระน้ำตามหัวไร่ปลายนา กลางนา สูบน้ำออกจับปลายส่งขายเป็นรายได้เสริม
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ที่ทุ่งนาบ้านประอาง ตำบลปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันจับปลาในบ่อหรือสระน้ำในที่ดินหัวไร่ปลายนา หลังจากสูบน้ำออกจนน้ำแห้งแล้ว ก็จะเห็นปลาทั้งปลาเล็กปลาน้อย อย่างปลาหมอหรือชาวอีสานเรียกปลาเข็ง รวมถึงปลาช่อนตัวโตเท่าแขนน้ำหนักกิโลกว่าก็มี
ชาวบ้านจึงช่วยกันไล่จับอย่างสนุกสนาน ขณะที่จับปลาอยู่นั้น ก็มีประชาชนผู้ที่ขับรถเดินทางผ่านไปมาก็ได้จอดรถซื้อปลาไปประกอบอาหารรับประทานที่บ้าน เป็นปลาที่จับขึ้นมาสดๆ และเป็นปลาจากบ่อธรรมชาติไม่ใช่ปลาเลี้ยงด้วยหัวอาหาร เจ้าของปลาขายปลาช่อนตัวขนาดใหญ่หนัก 7 ขีดขึ้นไปถึง 1 กิโลกรัมขายกิโลกรัมละ 140 บาท
นายใส รามภักดี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 2 ตำบลปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง กล่าวว่า หลังเสร็จจากการเก็บเกี่ยวข้าวในนาเรียบร้อยแล้ว ตนก็จะออกหาซื้อเหมาบ่อหรือสระน้ำในนาของชาวนาในพื้นที่อำเภอไพรบึงและอำเภอใกล้เคียง เพื่อสูบน้ำออกจับปลาไปขาย ทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มเข้ามาในครอบครัวการซื้อเหมาบ่อก็ต้องใช้ความชำนาญในการดูปลา คำนวณว่าปลามีมากน้อยแค่ไหน ดูจากปลาขึ้นมาหายใจ และดูจากทำเลของบ่อ
เนื่องจากปลาอยู่ในน้ำไม่เห็นตัวปลา เสี่ยงเอามีได้กำไรมากบ้างน้อยบ้างแต่ส่วนใหญ่จะไม่ขาดทุน การสูบสระน้ำจับปลาใช้เวลาหลังเกี่ยวข้าวแล้วประมาณเดือนเศษ ออกสูบทุกวัน มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาช่วยสูบน้ำช่วยจับปลาก็ต้องจ่ายค่าแรงให้เข้า นี่ก็คือต้นทุนของเรา
จะสูบได้วันละ 1 บ่อ หลังจากจับปลาเสร็จประมาณบ่ายโมงหรือบ่ายสองโมง แล้วแต่บ่อใหญ่ไม่ใหญ่ จับปลาเสร็จก็นำปลากลับไปบ้านจะมีพ่อค้า แม่ค้านำรถบรรทุก 6 ล้อ มารับซื้อที่ลานกว้างในหมู่บ้านซึ่งจะมีผู้ที่รับเหมาบ่อจับปลามาขายรวมกันหลายเจ้าหลายราย พ่อค้ามาจุดเดียวไม่ต้องตระเวนหาซื้อ ก็จะซื้อจากขาประจำของใครของเรา ราคาก็จะเท่ากัน การเหมาบ่อสูบจับปลาขายทำให้มีรายได้เสริมปีละ 6-7 หมื่นถึงหนึ่งแสนบาทก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ” นายใส กล่าว.